อ่านชื่อเรื่องแล้วบางคนคงงงกันไปใหญ่ พาลจะคิดว่า ‘มุมสุขภาพ’ จะมาขัดขาที่ก้าวย่างอย่างเร็วรีบ หรือความ(พยายาม)คิดอันไวว่อง ให้กลายเป็นคนคิดช้า พูดช้า ทำช้าลงไปเสียทำไม หากให้ทำดังนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรในโลกที่ใคร ๆ ก็แข่งกับเวลา พยายามทำงาน หาเงิน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เพียบพร้อมโก้หรู รวม ๆ แล้วก็คือการนิยมวัตถุ แบบสังคมทุนนิยมที่ให้เกียรติกับ ‘เงิน’ เป็นเครื่องกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเอง
จะว่าไป ตัวผู้เขียนเอง เมื่อได้หนังสือชื่อ ‘สูตรความสุข Slow Life’ ที่เขียนโดยคุณปวิตรา เกษมเนตร ก่อนอ่านก็รู้สึกสงสัยว่าสุขแบบช้า ๆ อย่างชื่อหนังสือนั้นจะทำได้อย่างไร และจะเป็นเช่นไร กระทั่งได้อ่านเรื่องราวทั้งหมดพร้อมทำความเข้าใจ วันนี้จึงไม่รอช้าขอหยิบแนวทางดี ๆ มาฝากผู้อ่านที่กำลังรู้สึกว่า การใช้ชีวิตแบบติดสปีด นอนดึก ตื่นเช้า เครียดกับการเดินทาง อาหารที่กินเข้าไปก็เป็นแบบกับข้าวถุง หรือจานด่วน ไม่มีเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย จนเกิดความเครียด และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ขอใช้เงินที่หามาได้ทุ่มไปกับการซื้อความสุข หรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าหมอ ค่ายา ร่างกายไม่แข็งแรง รวยโรค แก่เร็ว สรุปแล้วเงินที่หามาได้ แม้มากโขแค่ไหน ก็ไม่คุ้มกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่เสียไป
แนวความคิดตามสูตรความสุข Slow Life ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องตัดขาดจากสังคมปัจจุบันแล้วหันไปอยู่ในป่าเขา เพียงแต่มีสติทุกขณะ เลิกความคิดที่หุนหันพลันแล่นจนตกเป็นทาสของอารมณ์อย่างคนใจร้อน คิดลบมองโลกในแง่ร้าย หรือเข้าใจกันง่าย ๆ คือ เลิกเร็ว ร้อน แรง ร้าย หันมาใส่ใจในรายละเอียดของการใช้ชีวิตอย่างคนใส่ใจดูแลสุขภาพกาย-ใจของตนเอง
ยกตัวอย่างเช่น แต่ก่อนตื่นเช้า มีชีวิตที่รีบเร่ง จึงต้องกินอาหารกล่องจับใส่ไมโครเวฟแค่ไม่กี่นาทีก็ได้กิน เปลี่ยนมาเป็นการเข้านอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่เช้าลองทำอาหารรับประทานเอง อย่างน้อย ๆ คุณก็จะได้รับประทานที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ ส่วนในวันพักผ่อน แทนที่จะไปเข้าคิวรอกินมื้อน้อกบ้านที่ร้านจานด่วนมากไขมัน ลองหันมาซื้อของสด เข้าครัวทำอาหารร่วมกับคนในบ้าน แม้รสชาติจะไม่เลอเลิศ แต่ก็ได้กระชับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว อาหารที่กินปลอดภัย ความสุขในบ้าน็เพิ่มขึ้น
เรื่องการทำงานก็สร้างวินัยให้กับตนเอง อยู่ในกฏขององค์กร พยายามทำงานให้เสร็จตามเวลา ออมคำพูดในแง่ลบ ลดความคิดที่ไม่เป็นประโยชน์กับตนเองหรือผู้อื่น และพยายามคบหากัลยาณมิตร
ส่วนเวลาพักผ่อนใช่ว่าจะต้องไปออกกำลังกาย ในสถานที่รับสมาชิกหลักหมื่น เลือกที่สวนสาธารณะก็ได้เหงื่อเช่นกัน หรือการช้อปปิง จากที่เคยถี่ทุกวัน ทุกสัปดาห์ เพราะจะต้องกักตุนของ หรืออยากได้ก็ซื้อเพราะสนุก เปลี่ยนเป็นซื้อเท่าที่จำเป็น
แต่หลักสำคัญนั้นอยู่ที่ ‘ใจ’ ต้องไม่อ่อนไหวไปกับสิ่งที่มากระทบ อาจหาหลักยีดเหนี่ยวจากหลักศาสนาที่คุณศรัทธา
สุด ท้าย ผู้เขียนต้องขอออกตัวไว้ด้วยว่า สิ่งที่นำมาฝากผู้อ่านในวันนี้ เป็นเพียงสิ่งที่จับใจความแล้วกรองออกมาเล่า ให้พอเหมาะกับพื้นที่เท่านั้น ส่วนเนื้อหาที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตอย่างละเอียดหาอ่านกันได้ใน ‘สูตรความสุข Slow Life’
ที่มา นสพ.เดลินิวส์
และ http://pirun.ku.ac.th/~b5043124/page3.html
| หน้าที่เข้าชม | 57,188 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 21,940 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 17 ธ.ค. 2555 |
| ร้านค้าอัพเดท | 14 ต.ค. 2568 |
Zennetweork.thailand